รูเล็ต ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมพนันสุดคลาสสิคที่นิยมเล่นกันตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคาสิโนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นที่ลาสเวกัส มาเก๊า หรือว่าปอตเปต ล้วนต้องมีโต๊ะรูเล็ตไว้ให้เหล่านักเดิมพันได้วัดดวงกันบ้าง และแม้ว่าทุกวันนี้จะมี คาสิโนออนไลน์ ขึ้นมาแต่ว่าวิธีการเล่นก็ยังไม่เปลี่ยนไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือวิธีการเล่นรูเล็ตที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันก็คือวงนอกวงใน เราจะมาดูกันว่ามันคืออะไร เล่นยังไงกันครับ
ใครที่เพิ่งหัดเล่นรูเล็ตใหม่ ๆ ก็คงคิดว่าแค่วางเดิมพันเข้าไปตามรูปแบบเดิมพันที่มีบนโต๊ะก็พอ ไม่ว่าจะเป็นเต็งเลข, แทงสูง-ต่ำ, แทงสี, แทงโซน, แทงแถว หากดูแค่ผิวเผินอาจมองแค่อัตราจ่ายแล้ววางเดิมพันลงไป แต่รู้หรือไม่ครับว่านั่นไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสชนะเลยหากไม่รู้จักรูปแบบการวางเดิมพันที่แท้จริง เพราะรูเล็ตนั้นจะแบ่งรูปแบบการแทงออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ แทงวงนอก กับแทงวงใน ซึ่งมันให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันมากเลย
รูเล็ตวงนอก เป็นการเล่นที่มีความเสี่ยงต่ำมาก มีโอกาสชนะที่สูง แต่ก็แลกมาด้วยอัตราการจ่ายที่ค่อนข้างต่ำ เพราะเป็นจุดที่คาสิโนเสียเปรียบเรามากที่สุด จุดนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบเล่นแบบเรื่อย ๆ ไม่ค่อยชอบเสี่ยง ชอบอะไรที่ให้ความมั่นคง แน่นอน ซึ่งวิธีการเล่น รูเล็ตวงนอกก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก รูปแบบการเล่นก็มีดังนี้
แถวที่ 1 หรือ 1st มีหมายเลข 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34
แถวที่ 2 หรือ 2nd มีหมายเลข 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32, 35
แถวที่ 3 หรือ 3rd มีหมายเลข 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36
วิธีการแทงก็แค่ทายไปว่าลูกบอลจะหยุดในแถวไหน หากหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในแถวที่เราแทง เช่น แทงแถวที่ 3 ลูกบอลหยุดที่หมายเลข 18 ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน
โซนที่ 1 หรือ 1st มีหมายเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12
โซนที่ 2 หรือ 2nd มีหมายเลข 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24
โซนที่ 3 หรือ 3rd มีหมายเลข 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36
ส่วนหมายเลข 0 ไม่อยู่ในโซนใด ๆ วิธีเล่นก็จะเหมือนกับการแทงแถว หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในโซนที่เราแทง เช่น แทงโซน 2 ลูกบอลหยุดที่หมายเลข 13 แบบนี้ก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน
คราวนี้เรามากันที่รูเล็ตวงในกันบ้าง ซึ่งมันจะตรงข้ามกับวงนอกอย่างเห็นได้ชัดคือ อัตราจ่ายที่สูงมาก ซึ่งมาพร้อมกับโอกาสชนะที่ลดน้อยลง และความเสี่ยงที่สูงขึ้น จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเสี่ยง หรือต้องการทำกำไรในระยะสั้น และยิ่งเอาไปใช้กับสูตรรูเล็ตอื่น หรือสูตรเดินเงิน จะยิ่งทำให้การเล่นรูเล็ตวงในมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการเล่นก็จะมีดังนี้
ลำพังแค่อาศัยอัตราจ่ายและความเสี่ยงในการเล่นรูเล็ตวงนอกวงในอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย แม้จะเล่นแบบความเสี่ยงทำก็ทำกำไรได้ช้า ยิ่งเล่นหลายตายิ่งเสียคืนคาสิโน ถ้าจะเล่นด้วยความเสี่ยงสูง ได้กำไรเยอะก็จริง แต่โอกาสชนะก็น้อย อาจทำให้ขาดทุนก่อนด้วยซ้ำ
ดังนั้นสูตรเดินเงินรูเล็ต จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่จะลดความเสี่ยงในการลงทุนให้กับเรา ส่วนใหญ่สูตรที่เราคุ้นเคยกันดีก็มีพื้นฐานมาจากสูตรเดินเงินบาคาร่า ไม่ว่าจะเป็นสูตร Martingale, 1324, พาโรลี, ลาบูเซอร์, เดลองเบ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่สำหรับรูเล็ตที่ต้องตัดสินใจให้เร็วแล้ว ผมจะพาไปรู้จักกับ 2 สูตรเด่น ๆ เลยก็คือ สูตรเดินเงิน Martingale และสูตรเดินเงิน 1324 ซึ่งสองสูตรนี้ไม่ได้มีดีแค่เข้าใจง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นสูตรที่นักพนันนิยมใช้กันอีกด้วย
ไม่ว่าจะมือใหม่มือเก่าผมว่าสูตรเดินเงินตัวนี้ต้องเป็นสูตรแรกที่ทุกคนต้องใช้แน่ บางทีอาจรู้จักกันในชื่อว่าสูตรแทงทบ จุดเด่นของมันเลยก็คือใช้แก้เกมเวลาที่เราเสีย มันจะดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมาให้หมดทุกบาททุกสตางค์หรือที่เรียกว่าสูตรถอนทุนนั่นเอง นอกจากนี้มันยังทำกำไรให้อีก 1 หน่วยเป็นค่าเสียเวลาให้เราอีกด้วย
ปัจจัยสำคัญที่คนใช้สูตรนี้นอกจากเงินทุนที่หนาพอประมาณแล้วก็คือ สติกับวินัยในการเล่น หากคุมเกมไม่ดี หรือมีอารมณ์ร่วมบอกเลยว่ากระเป๋าแหก ถังแตกกันมาเยอะแล้ว เพราะหลักการใช้งานของมันคือเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าทุกครั้งที่แทงเสีย
สูตรนี้มันก็มีข้อเสียอีกอย่างคือถ้าใครดวงตกจริง ๆ เล่นแล้วแพ้ยาว ๆ ควรจะหยุด เพราะมันจะทำให้เงินหมดไวมาก ๆ แต่ถ้าแพ้ชนะสลับกันไปอันนี้สูตรจะทำงานได้ดี ถ้าจะให้ดีควรจะเล่นด้วยสูตรนี้ 5 ตา หรือว่า 5 ไม้ แพ้ติดกันครบ 5 เมื่อไหร่ก็รีบหยุดเลย ส่วนใครที่ทุนน้อยผมไม่ยากให้ใช้ เพราะความเสี่ยงมาสูงมากเมื่อเทียบกับเงินในกระเป๋า
ถ้าอยากรู้ว่าเงินที่มีมันมากหรือน้อย ให้เอาเดิมพันขั้นต่ำของโต๊ะมาเป็นตัวหารครับ หากหารแล้วได้ตั้งแต่ 100 ขึ้นไป อย่างนี้ก็พอได้ลุ้นกันหน่อย แต่ถ้าต่ำกว่านี้ควรมองหาสูตรอื่น หรือสูตร 1324 ที่ผมกำลังจะพูดถึงครับ
สูตรเดินเงิน 1324
ใครทุนน้อยผมอยากแนะนำสูตรนี้มาก ๆ แค่เอาชนะติดกัน 4 ตาให้ได้ ก็ทำกำไรให้มากถึง 10 เท่าสำหรับอัตราจ่ายแทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน ยิ่งเป็นอัตราจ่ายอื่นนี่ไม่ต้องพูดถึง แทบจะรวยไม่รู้เรื่องเลยก็ได้ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดูกันเลย
รอบที่ 1 แทงไป 10 บาท ชนะได้กำไรกลับมา 10 บาท ลุยต่อรอบ 2
รอบที่ 2 แทงไป 30 บาท โดยใช้ทุนกับกำไรรอบแรก 20 บาท แล้วเพิ่มทุนไปอีก 10 บาท ชนะได้กำไรกลับมา 30 บาท ตอนนี้ผมได้กำไรทั้งหมด 40 บาทแล้ว จัดรอบต่อไปเลย
รอบที่ 3 แทงไป 20 บาท โดยใช้แค่กำไรที่ได้มาเท่านั้น ยังเหลือกำไรติดกระเป๋าอีก 20 บาท โชคดีชนะ ได้กำไรกลับมา 20 บาท รวมแล้วได้กำไร 60 บาท ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอไปให้สุดเลยแล้วกัน
รอบที่ 4 แทงไป 40 บาท ด้วยกำไรอย่างเดียว เหลือติดกระเป๋าไว้ 20 บาท โชคช่วยได้กำไรกลับมา 40 เท่ากับว่าเล่นมา 4 รอบ ผมได้กำไรไปทั้งหมด 100 บาท จากทุน 10 บาทในรอบแรก
เห็นไหมครับว่ามันทำกำไรได้จริง ๆ แค่เอาชนะ 2 รอบแรกให้ได้ ต่อให้แพ้รอบที่ 3 ก็ยังเหลือกำไรอยู่ดี แล้วแบบนี้ยิ่งอัตราจ่ายสูงขึ้น ยิ่งเหลือกำไรให้เล่นกันอีกบาน
อย่างไรก็ตามนอกจากรูเล็ตแล้ว สูตรเดินเงินที่ผมเอามาแบ่งปันทั้งสองสูตร สามารถเอาไปใช้ได้กับทุกเกมพนันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น บาคาร่า, ไฮโล, เสือมังกร หรือแม้แต่แบล็คแจ็กก็ใช้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นสูตรไหนยังไง ผมอยากให้คุณ ๆ จำสูตรนี้ไว้เลยครับ เล่นได้ให้พอ เสียให้เลิก เพียงเท่านี้ก็จะสนุกไปกับทุกการวางเดิมพันแล้ว ที่สำคัญอย่าเล่นนานเกินไป เพราะท้ายที่สุดไม่มีใครเอาชนะคาสิโนได้ในระยะยาวแน่นอน