หากจะกล่าวถึงสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในเกมไพ่บาคาร่า คงหนีไม่พ้น “กฎไพ่ใบที่สาม” ซึ่งเป็นกฎที่ใช้ตัดสินว่าจะจั่วไพ่ใบที่สามเมื่อใดระหว่างเล่นบาคาร่า แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะจริง ๆ แล้วมันไม่ได้น่ากลัวหรือซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงแต่ความง่ายของเกมบาคาร่าถือเป็นข้อดีหลักอย่างหนึ่ง แต่กระนั้นผู้เล่นมือใหม่หลายคนก็ยังคงสับสนกับกลไกนี้อยู่ดี
Juad888 เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการศึกษากฎไพ่ใบที่สามในบาคาร่า เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เนื่องจากมีการอธิบายอย่างละเอียดถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ว่าเมื่อใดที่จะต้องจั่วไพ่เพิ่ม ทั้งในกรณีของฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือ รวมถึงยังมีตารางไพ่ใบที่สามให้ศึกษา ซึ่งจะช่วยให้จดจำและเข้าใจหลักการได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในการเล่นบาคาร่าทุกครั้ง จะมีขั้นตอนการแจกไพ่ที่เหมือนกันเสมอ นั่นคือจะแจกไพ่ให้ผู้เล่นและเจ้ามือฝั่งละ 2 ใบก่อน โดยไพ่ 2 ใบแรกที่ถูกเปิดออกมาคือไพ่ของฝั่งผู้เล่น ซึ่งคุณต้องดูไพ่ของผู้เล่นเป็นอันดับแรก
โชคดีที่กฎการจั่วไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่นในบาคาร่านั้นค่อนข้างตรงไปตรงมากว่าฝั่งเจ้ามือ เพียงแค่ดูแต้มรวมของไพ่ทั้งสองใบแรกก็จะรู้แล้วว่าต้องจั่วไพ่เพิ่มอีกหรือไม่
ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นได้ไพ่ 10 กับ 4 ซึ่ง 10 นับเป็น 0 แต้ม รวมแล้วเป็น 4 แต้ม กรณีนี้จะต้องจั่วไพ่ใบที่สาม
อีกกรณีคือ ถ้าได้ไพ่ 3 กับ 2 แต้มรวมเป็น 5 ก็ยังต้องจั่วเช่นกัน
เช่น ถ้าผู้เล่นได้ไพ่ Q กับ 6 ซึ่ง Q นับเป็น 0 แต้ม รวมแล้วได้ 6 แต้ม กรณีนี้ผู้เล่นจะไม่จั่วไพ่ที่สาม ต้องรอดูไพ่ฝั่งเจ้ามือต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้งสองฝั่งได้ไพ่ธรรมชาติเหมือนกัน จะถือเป็นเสมอ ยกเว้นว่าฝั่งใดได้ 9 แต้มจะชนะอีกฝั่งที่ได้ 8 แต้ม
ตัวอย่างของการได้ไพ่ธรรมชาติ 8 แต้ม เช่น ได้ไพ่ 8 กับ K (K=0 แต้ม) หรือ 7 กับ A (A=1 แต้ม)
ส่วนตัวอย่างไพ่ธรรมชาติ 9 แต้ม เช่น ได้ไพ่ 9 กับ Q (Q=0 แต้ม) หรือ 8 กับ A (A=1 แต้ม)
จะเห็นว่ากฎไพ่ใบที่สามสำหรับผู้เล่นค่อนข้างเข้าใจง่าย เพราะขึ้นอยู่กับแต้มรวมสองใบแรก โดยไม่ต้องสนใจไพ่ฝั่งเจ้ามือ
แน่นอนว่านี่คือกฎมาตรฐานของ Punto Banco ซึ่งใช้เล่นกันทั่วไปตามคาสิโน กฎนี้ยังรวมถึงรูปแบบพิเศษอย่าง Peek Baccarat ด้วย ซึ่งต่างกันตรงที่ Peek Baccarat จะอนุญาตให้ผู้เล่นเดิมพันเพิ่มได้ในบางจังหวะระหว่างรอบ แต่กฎเรื่องไพ่ใบที่สามก็ยังคงเดิม
ในส่วนของฝั่งเจ้ามือ กฎการจั่วไพ่ใบที่สามจะซับซ้อนกว่าฝั่งผู้เล่นพอสมควร เพราะนอกจากจะต้องดูแต้มไพ่ของตัวเองแล้ว ยังต้องสนใจไพ่ฝั่งผู้เล่นด้วย
ถ้าผู้เล่นไม่ได้จั่วไพ่ใบที่สาม นั่นหมายความว่าผู้เล่นมีไพ่อยู่ในมือเพียง 2 ใบ กรณีนี้กฎของเจ้ามือจะเหมือนกับผู้เล่น คือถ้าไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มรวม 0-5 แต้ม ก็จะจั่วไพ่ใบที่สาม
แต่ในกรณีที่ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบแล้ว กฎใหม่สำหรับการจั่วไพ่ใบที่ 3 ของเจ้ามือจะเริ่มทำงาน โดยทั่วไปแล้วทั้งแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือ และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น จะถูกนำมาพิจารณาว่าเจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่ ดังนี้
กฎการจั่วไพ่ใบที่สามของฝั่งเจ้ามือนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนและจดจำพอสมควรกว่าจะเล่นได้คล่อง แต่ก็ไม่ถึงกับยากเกินไป เพราะเป็นกฎตายตัวที่ใช้ได้ในทุกคาสิโน ทุกสถานการณ์เหมือนกันหมด
เพื่อช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจกฎเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น Juad888 จึงได้สร้างตารางอ้างอิงเอาไว้ให้ โดยตารางนี้จะถูกนำมาใช้เมื่อผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบแล้วเท่านั้น ถ้าผู้เล่นมีแค่ 2 ใบ แต้มรวมของเจ้ามือก็จะใช้วิธีการพิจารณาเหมือนของผู้เล่นตามที่เราคุ้นเคย
ตารางนี้สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี แต่คุณควรทำความเข้าใจหลักการให้ดีเสียก่อน ศึกษาตารางไพ่ใบที่สามให้ขึ้นใจ แล้วคุณจะพบว่าการเล่นบาคาร่าเป็นเรื่องสนุกและคุ้มค่าทีเดียว
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องให้ความสนใจกับกฎไพ่ใบที่สามของบาคาร่าด้วย ในเมื่อดูเหมือนจะเป็นเรื่องละเอียดปลีกย่อยเกินไป แต่ความจริงแล้ว ความเข้าใจในกฎนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับโอกาสในการชนะและความได้เปรียบของผู้เล่น
คำแนะนำที่มือใหม่มักได้รับบ่อยที่สุดเมื่อเล่นบาคาร่า คือให้เลือกเดิมพันฝั่งเจ้ามือ เพราะมีโอกาสชนะมากกว่าฝั่งผู้เล่น ข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริง แม้ว่าการเดิมพันฝั่งเจ้ามือจะมีค่าคอมมิชชั่น (ค่าน้ำ) 5% หักออกจากยอดที่ชนะในแต่ละครั้ง แต่ในระยะยาวแล้ว การเดิมพันเจ้ามือยังคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับฝั่งผู้เล่น
เหตุผลก็คือ ในแง่ของสถิติแล้ว ฝั่งเจ้ามือมีโอกาสชนะสูงถึง 45.8% ในขณะที่ฝั่งผู้เล่นชนะ 44.6% หากเราตัดกรณีที่เสมอออกไป (เพราะถือว่าเป็นการคืนเงินเดิมพัน) จะพบว่าอัตราโอกาสที่เจ้ามือจะชนะผู้เล่นอยู่ที่ราว 51:49 นี่จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมีการหักค่าน้ำ 5% จากยอดเงินที่ชนะของเจ้ามือในแต่ละตา และเมื่อหักค่าน้ำแล้ว อัตราการคืนทุนให้กับผู้เล่น (RTP) ในระยะยาวของการเดิมพันฝั่งเจ้ามือจะอยู่ที่ประมาณ 98.94% หรือพูดอีกแบบคือ เจ้ามือมีขอบบ้าน (house edge) เพียง 1.06% เมื่อเทียบกับ 1.24% ของฝั่งผู้เล่น
แล้วอะไรที่ทำให้เจ้ามือได้เปรียบกว่าผู้เล่นในเกมบาคาร่า คำตอบสั้น ๆ ก็คือ กฎไพ่ใบที่สามนี่เอง
ประเด็นสำคัญคือ ฝั่งเจ้ามือจะจั่วไพ่ใบที่สามก็ต่อเมื่อมันเป็นผลดีกับตัวเอง หรือในสถานการณ์ที่ไพ่ 2 ใบแรกนั้นอ่อนแอเมื่อเทียบกับไพ่ของผู้เล่น ลองย้อนกลับไปดูที่กฎของเจ้ามือ เราจะเห็นว่ามันจะจั่วไพ่เพิ่มก็ต่อเมื่อคาดว่าอาจเสียเปรียบผู้เล่นในรอบนั้น ๆ เท่านั้น เนื่องจากไพ่บาคาร่าไม่มีดอก ดังนั้นความแข็งแกร่งของไพ่ในมือจึงขึ้นอยู่กับแต้ม และสถานการณ์ของอีกฝั่งเป็นหลัก
ในทางตรงกันข้าม ฝั่งผู้เล่นจะถูก “บังคับ” ให้ต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์หรือไพ่ของเจ้ามือเลย และจากสถิติแล้ว การจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ มักจะไม่ได้ช่วยให้แต้มดีขึ้นมากนัก เพราะ 0 แต้มเป็นแต้มที่มีโอกาสเกิดมากที่สุดจากการสุ่มไพ่ 1 ใบ (เนื่องจาก 10, J, Q, K ล้วนนับเป็น 0 แต้ม)
ถึงแม้ผู้เล่นจะถูกบังคับให้จั่วไพ่ใบที่สามเฉพาะตอนที่มีแต้มต่ำเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการจั่วไพ่เพิ่มจะช่วยให้แต้มแข็งแกร่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สมมติผู้เล่นมีแต้มรวม 5 แต้ม ตามกฎต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 แต่ไพ่ที่จะทำให้แต้มรวมดีขึ้นนั้นมีเพียง 1, 2, 3 และ 4 เท่านั้น (ซึ่งจะทำให้ได้ 6-9 แต้ม) ส่วนไพ่ใบที่ 3 ที่ออกเป็นแต้มอื่นนอกเหนือจากนี้ ล้วนแล้วแต่จะทำให้มือนั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด และโอกาสที่ไพ่จะออกมาเป็น 0 หรือ 5-9 แต้มนั้นมีมากกว่าที่จะออกเป็น 1-4 แต้ม
ถึงอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้ฟังดูเลวร้ายกว่าความเป็นจริง เพราะถ้าเรามองสถิติการชนะโดยรวม จะเห็นว่าโอกาสชนะของผู้เล่นเมื่อเทียบกับเจ้ามือนั้นต่างกันเพียง 0.18% (ขอบบ้าน 1.24% และ 1.06% ตามลำดับ) ดังนั้นความเข้าใจเรื่องนี้จึงเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่วางแผนจะใช้กลยุทธ์ในการเอาชนะบาคาร่า
จะเห็นว่ากฎไพ่ใบที่สามไม่ได้มีไว้เพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้กับเกมการพนัน แต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยควบคุมความได้เปรียบและโอกาสในการทำกำไรของเจ้ามือ ซึ่งก็คือคาสิโนนั่นเอง ดังนั้นการศึกษากฎนี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากมันได้มากที่สุดในการวางเดิมพัน ทั้งยังเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเล่นอีกด้วย
Juad888 หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้เล่นทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ได้มีความเข้าใจเรื่องกฎไพ่ใบที่สามในบาคาร่ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยให้การเล่นเกมไพ่เก่าแก่นี้เป็นเรื่องสนุกและคุ้มค่าสำหรับทุกคน