ไฮโล ผมว่าชื่อนี้ใคร ๆ ก็ต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เรียกว่าเกิดมาก็เจอ ไม่ว่าจะเป็นวงไฮโลใกล้บ้าน ตามงานต่าง ๆ ก็มีให้เล่นกัน แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องลำบากออกไปเล่นให้เสี่ยงกันแบบนั้นอีกแล้ว เพียงแค่เข้าไปเล่น ไฮโลออนไลน์ ตามเว็บต่าง ๆ ก็ได้เงินเหมือนกัน ว่าแต่มันเล่นกันยังไง กติกาเหมือนกันหรือไม่ ทำยังไงให้ได้มากกว่าเสีย เดี๋ยวเราไปดูกันเลยครับ
แม้ว่าไฮโลจะเป็นอีกหนึ่งเกมพนันที่ถูกยกมาไว้ในคาสิโนออนไลน์ แต่บอกเลยว่ากติกาต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม เคยเล่นที่วงใกล้บ้านยังไง ในเว็บพนันออนไลน์ก็ใช้กฎเดียวกัน เพียงแต่วิธีการอาจแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อยดังนี้
วิธีแทงไฮโลออนไลน์ กับอัตราจ่ายนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 8 แบบ ดังนี้
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าไฮโลเป็นเกมพนันที่มีอัตราจ่ายหลากหลายมาก ยิ่งจ่ายสูงหมายความว่าเรามีโอกาสชนะน้อย ดังนั้นใครที่อยากลุ้นแบบเก็บกินกำไรเรื่อย ๆ แนะนำว่าแทงพวกที่มีอัตราจ่ายน้อย ๆ แทนอย่างแทงเต็ง, แทงสูง-ต่ำ หรือคู่-คี่ ก็ได้ เพราะพวกอัตราจ่ายน้อย ๆ เรามีโอกาสชนะสูงกว่า แต่ถ้าอยากได้กำไรเยอะ ๆ จะเล่นที่อัตราจ่ายสูง ๆ ก็ได้ เพียงแค่วางเดิมพันต่ำ ๆ ก็พอจะได้ลดความเสี่ยงไปในตัว
ไม่ว่าจะเป็นไฮโลไกลบ้านหรือว่าไฮโลออนไลน์ สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือวางเดิมพันทันทีที่ถึงโต๊ะ เราอาจเคยได้ยินคำว่า “ฟังเสียงไฮโล” กันมาบ้างแล้ว และมันก็เป็นวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันมากเพราะได้ผลที่ค่อนข้างดี แต่สำหรับการเล่น ไฮโลออนไลน์ วิธีนี้อาจจะยากสักหน่อย ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีวิธีดูมือดีลเลอร์ซึ่งให้ผลดีพอสมควร
วิธีที่ว่านี้คือให้ดูที่ท่าทางการเขย่าเป็นหลัก ดูลักษณะการวางลูกเต๋าควบคู่กันไป ปกติแล้วก่อนเขย่าเจ้ามือหรือดีลเลอร์จะต้องเอาหน้า 4 อยู่ด้านบนแล้วให้หน้า 1 หันมาทางผู้เล่น แล้วค่อยเขย่า ที่ต้องดูวิธีเขย่าก็เพราะมันเป็นพฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่ดีลเลอร์ทำออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว โอกาสที่เราจะคาดเดาจากวิธีเขย่าเลยค่อนข้างเป็นไปได้สูง โดยทั่วไปจะมีการเขย่าอยู่ 2 แบบ คือ เขย่าถอยหลัง กับเขย่าเดินหน้า
การเขย่าแบบดึงถอยหลัง มีโอกาสที่จะออกหน้าต่ำมากกว่า เพราะจากหน้า 1 ต่อไปจะเป็นหน้า 2 กับ 3 หากเราแทงสองหน้านี้พร้อมกับแทงต่ำก็จะมีโอกาสชนะมากกว่าแทงหน้าอื่น
แต่ถ้าดีลเลอร์เขย่าแบบดันไปข้างหน้า โอกาสที่จะออกหน้า 5 กับ 6 จะสูงกว่า ให้เน้นแทงสูง 5 กับ 6 แล้วแทงเต็ง 5 กับ 6 เข้าไปด้วย จะมีโอกาสชนะสูง
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะวางเดิมพันทุกครั้งควรดูการเขย่าไฮโลของดีลเลอร์ไปสักพักว่าเขย่าแบบไหน บางคนอาจจะดัน 3 ครั้ง ดึงอีก 2 ครั้ง หรือบางคนอาจจะเขย่าแบบใดแบบหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะเขย่าแบบไหน แต่ละคนก็จะมีรูปแบบการเขย่าที่ไม่เหมือนกัน คล้าย ๆ กับการอ่านเค้าไพ่ และควรทำแบบนี้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวคนเขย่าด้วยเช่นกัน
การพนันทุกชนิดมันจะมีความเสี่ยงอยู่ในตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะไฮโลที่ถือว่าเป็นเกมที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ต้องคาดเดาให้ได้ว่ามันจะออกอะไร แต่ว่าความเสี่ยงตรงนี้ถ้าเรารู้จักมันก็จะใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน เช่น เราอาจเลือกความเสี่ยงต่ำอย่างพวกที่อัตราจ่าย 1 : 1 แม้กำไรจะได้น้อยแต่มีโอกาสชนะมากถึงครึ่งต่อครึ่งกันเลยทีเดียว
แต่การที่มีลูกเต๋ามากถึง 3 ลูก 18 หน้า แบบนี้ทำให้ ไฮโลออนไลน์ มีความซับซ้อนกว่าเดิม เพื่อให้คาสิโนมีความได้เปรียบที่สูงขึ้น แต่สำหรับนักพนันนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เพียงแค่รู้จักเลือกความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับดังนี้
ความเสี่ยงระดับต่ำ
ใครที่เป็นมือใหม่หรือว่ายังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องไฮโลแล้วล่ะก็ ขออย่างเดียวอย่าห้าวเข้าไปแทงมั่ว ๆ เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแทงร้อยหมดร้อยแน่ ควรจะเริ่มต้นที่การแทง สูง-ต่ำ, คู่-คี่ ไม่ก็แทงโต๊ด เพราะพวกนี้มีค่า House Edge ที่ต่ำมาก ๆ เพียงแค่ 2.78% เท่านั้น เหมาะที่จะใช้ฝึกวางเดิมพันกันยาว ๆ
ใครที่เพิ่งหัดเล่น ไฮโลออนไลน์ อย่ารีบห้าวไปแทงมั่ว ๆ ก็แล้วกันไม่งั้นได้หมดตัวแน่ ดังนั้นควรเริ่มจากการแทง สูง-ต่ำ (Big – Small) ไม่ก็แทง โต๊ด (Combination) เพราะว่าค่า House Edge มันมีเพียงแค่ 2.78% แม้ว่าจะนั่งแช่กันยาว ๆ โอกาสแพ้ชนะก็อยู่เกือบ ๆ 50% เท่านั้น ยิ่งเอาสูตรเดินเงินบาราค่ามาใช้ยิ่งทำให้มีโอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้น
ส่วนการแทงโต๊ด แม้ว่าอัตราจ่ายจะสูงขึ้นเป็น 1 : 5 ก็ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงจะสูงเกินมือใหม่ เพียงแค่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจมันเอง ทั้งที่ในการแทง 6 ครั้ง มีโอกาสชนะ 1 ครั้งเสมอ แต่การเล่นโต๊ดก็จะมีเทคนิคอยู่ก็คือแบ่งทุนออกเป็น 10 หน่วย แล้วเอาชนะให้ได้ 2 ครั้ง ก่อนที่จะใช้เดิมพันครบ 10 หน่วย เพียงเท่านี้ก็ได้กำไรแล้ว และต้องหยุดทันที เพราะถ้าเล่นจนครบ 10 หน่วยจะมีโอกาสที่เราหมดตัวสูงมาก
ความเสี่ยงระดับกลาง
ใครที่เริ่มคุ้นเคยกับการเล่นไฮโลมาบ้างแล้ว การนั่งแช่ยาว ๆ กับอัตราจ่ายต่ำ ๆ คงไม่ใช่เรื่องดี เพราะนอกจากจะทำกำไรช้าแล้วโอกาสที่จะชนะในระยะยาวก็จะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ อีกด้วย สำหรับคนที่เริ่มวางเดิมพันคล่องแล้วแนะนำว่าควรเล่น 2 แบบนี้ เพื่อที่จะได้กำไรมากขึ้น คือ
แบบที่ 1 แทงเต็งคู่ 1, 5 และ 6 อย่างละ 2 หน่วย ตามด้วยแทงแต้มรวม 9 อีก 3 หน่วย
แบบที่ 2 แทงเต็งคู่ 1, 2 และ 6 อย่างละ 2 หน่วย ตามด้วยแทงแต้มรวม 12 อีก 3 หน่วย
การแทงแบบนี้จะเป็นการขยายพื้นที่หรือเพิ่มโอกาสชนะมากขึ้น เพราะ 4 จุดที่เราวางเดิมพันไปมีโอกาสออกมากถึง 25% หรือ 1 ใน 4 ส่วนผลตอบแทนที่จะได้รับก็คือ
ถ้าถูกแต้มรวม 9 หรือ 12 เราจะได้กำไร 18 หน่วย หักทุนในคู่เสีย 6 หน่วย เหลือกำไร 12 หน่วย
แต่ถ้าถูกเต็งคู่ จะได้กำไร 20 หน่วย หักทุนที่เสียไป 7 หน่วย ก็เหลือกำไร 13 หน่วย
อย่างไรก็ตามการเล่นด้วยวิธีนี้ควรจะมองหาโต๊ะที่มีอัตราจ่ายเต็งคู่เป็น 1 : 10 ถึงจะคุ้ม ถ้าน้อยกว่านี้มีโอกาสมากที่จะได้ไม่คุ้มเสีย
ความเสี่ยงระดับสูง
ถ้าสองความเสี่ยงแรกมันไม่สะใจ ได้กำไรแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วล่ะก็ วิธีการเล่นแบบนี้สามารถช่วยได้แน่ เพียงแค่ยอมรับความเสี่ยงของมันให้ได้ก็พอ วิธีเล่นก็เพียงแค่แทงเข้าไป 3 จุดพร้อมกัน โดยไม่ต้องสนว่ามันจะครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน เน้นไปที่ข้างใดข้างหนึ่ง เพราะเป้าหมายของเราคือเงินก้อนโตเมื่อแทงถูกพร้อมกัน 2 จุด ซึ่งมีวิธีการแทงดังนี้
วิธีที่ 1 แทงหนักซ้าย ไล่แทงตั้งแต่แต้มรวม 8 จำนวน 3 หน่วย แทงเต็งคู่ 1, 2 และ 3 จุดละ 2 หน่วย ต่อด้วยแทงโต๊ด 2 กับ 3 ไปอีก 2 หน่วย รวมทุนทั้งหมด 11 หน่วย
วิธีที่ 2 แทงหนักขวา ไล่แทงแต้มรวม 13 จำนวน 3 หน่วย ต่อด้วยเต็งคู่ 4, 5 และ 6 อีกจุดละ 2 หน่วย แล้วแทงโต๊ด 4 กับ 5 ไปอีก 2 หน่วย รวมทุน 11 หน่วยเหมือนกัน ซึ่งมันก็จะให้ผลลัพธ์เหมือนกับวิธีที่ 1
อย่างไรก็ตามอยากจะให้ทำใจไว้ก่อนเลยว่าการเล่นด้วยความเสี่ยงสูงนั้นมีโอกาสชนะน้อยมากที่เราจะโดนพร้อมกัน 2 จุด และยิ่ง 3 จุดนี้ยิ่งยากเข้าไปอีก ดังนั้นควรจะพร้อมจริง ๆ ค่อยมาเล่น ไม่อย่างนั้นคงมีหัวร้อนกลับไปแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเทคนิคแทงไฮโลออนไลน์ให้ได้มากกว่าเสีย แม้ว่าสูตรที่เราเอามาบอกกันมันจะใช้ได้จริง แต่ก็อย่าลืมว่าการพนันมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง การคาดคะเน มันเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น ดังนั้นควรจะเล่นกันแค่พอดี เอาแค่พอสนุก อย่าไปหวังกำไรมากมาย ที่สำคัญควรมีวินัยและเป้าหมายในการเล่นด้วย จะได้สนุกไปกับทุกการเดิมพันครับ