น่าแปลกหรือไม่ว่าที่เกมพนันง่าย ๆ หาเล่นได้แถวบ้านอย่างไฮโล ถึงทายถูกยากเสียเหลือเกิน ทั้งที่มันก็เป็นเกมพนันที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่บอกเลยว่าแม้มันจะดูง่ายก็ไม่ได้หมายความว่าจะแทงมั่ว ๆ ได้ เพราะมันก็มีวิธีการเล่นมีสูตรเหมือนกับเกมพนันอื่น ๆ บทความนี้เราจะพาไปดู 8 วิธีเล่นไฮโลออนไลน์ที่นักเดิมพันต่างบอกต่อ ๆ กันมาว่าสามารถทำเงินได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส ว่าแต่มันเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
รู้หรือไม่ว่าเดิมทีนั้นไฮโลไทยไมใช่ของไทยอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันเป็นเกมพนันที่เกิดจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานในจีน ที่เวลาว่างแล้วไม่มีอะไรทำเลยเอาก้อนอิฐหรือก้อนดินเผามาเขียนตัวเลขไว้ทั้ง 6 ด้าน ส่วนกติกาก็ง่าย ๆ แค่ทายว่าเมื่อโยนลงพื้นแล้วจะออกเลขอะไรก็พอ ถ้าทายถูกก็ถือว่าชนะไป ต่อมาก็มีการปรับกติกาพัฒนาวิธีการเล่นใหม่ ๆ ให้มีความท้าทาย สนุกน่าเล่นกว่าเดิม ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างมากถึงขนาดที่ว่าทุกคาสิโนต้องมีไฮโลหรือซิกโบให้เล่นกันเลยทีเดียว
วิธีการเล่นไฮโลไม่ว่าจะออนไลน์หรือในบ่อนก็เหมือนกันทุกอย่าง ใช้กติกาเดียวกัน แค่ในคาสิโนออนไลน์บางแห่งจะใช้ชื่อว่าซิกโบเท่านั้น หากใครที่ไปเล่นคาสิโนนอกแล้วเจอคำว่า Sic-Bo ก็ให้รู้เลยว่าคือเกมเดียวกัน เพียงแต่คำว่าไฮโลในบ้านเราเรียกทับศัพท์ตามวิธีการเล่นคือการแทงสูง (Hight) และแทงต่ำ (Low) นั่นเอง
อุปกรณ์การเล่นไฮโลหลัก ๆ จะมีลูกเต๋าแบบ 6 หน้า 3 ลูก ซึ่งเราจะต้องทายให้ถูกว่าผลจะออกมาแบบไหน ในแต่ละแบบก็จะมีอัตราจ่ายที่แตกต่างกันไป มีตั้งแต่จ่ายเยอะ จ่ายน้อย เรียกได้ว่าเป็นเกมพนันที่มีรูปแบบการวางเดิมพันเยอะมาก แต่ถ้าเล่นแบบเน้นความเสี่ยงต่ำ ทำกำไรได้ชัวร์ ๆ ล่ะก็จะมีวิธีเล่นไฮโลอยู่ 8 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้
รูปแบบเดิมพันพื้นฐานที่นิยมกันมาก บางโต๊ะจะใช้คำว่า “เล็ก-ใหญ่” แทน ซึ่งจะใช้แต้มรวมของลูกเต๋ามาตัดสิน ถ้ามีแต้มรวมตั้งแต่ 4-10 แต้ม จะถือว่าออกแต้ม “ต่ำ” ถ้าออกแต้มรวมระหว่าง 11-17 อันนี้จะเรียกว่าแต้ม “สูง” โอกาสแพ้ชนะจะอยู่ที่ครึ่งต่อครึ่ง อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 1 ไม่รวมทุน
หากพูดถึงระดับความเสี่ยงล่ะก็พอ ๆ กับการแทงแต้มต่ำ-สูง เพราะเรามีโอกาสแพ้หรือชนะพอ ๆ กัน แน่นอนว่าอัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 1 เช่นกัน ต่างกันแค่เป็นการทายว่าแต้มรวมที่ออกมาจะเป็นแต้มคู่หรือแต้มคี่เท่านั้นเอง
เป็นการแทงแต้มเดียวแบบโดด ๆ วิธีนี้ถึงจะมีโอกาสชนะน้อยกว่า 2 แบบแรก แต่ก็ยังมีอัตราจ่ายที่ดีอยู่ เพียงทายว่าลูกเต๋าจะออกหน้าไหนตั้งแต่เลข 1 – 6 หากมีลูกเต๋าลูกใดลูกหนึ่งออกแต้มที่เราทายไว้ก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายคือ 1 : 1 แต่ความพิเศษของการแทงแบบนี้คือ อัตราจ่ายจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกเต๋าที่ออกหน้าที่เราทายไว้ หากออกตรง 2 ลูก ก็จ่าย 1 : 2 ออกตรง 3 ลูก ก็จ่าย 1 : 3 ยกตัวอย่างเช่น เราแทง 5 ไป 100 บาท ถ้ามีลูกเต๋าออกหน้า 5 ทั้งหมด 2 ลูกก็ถือว่าชนะ จะได้รับเงินกลับมา 300 บาท (ทุน 100 กำไร 200)
วิธีการแทงไฮโลแบบนี้เราจะแทงไปที่แต้มใดแต้มหนึ่งเหมือนกับเต็งเดี่ยว แต่เงื่อนไขการชนะก็คือลูกเต๋า 2 ใน 3 จะต้องออกหน้าที่เราแทงไว้ถึงจะถือว่าชนะ เช่น แทงเต็งคู่ 3 แล้วลูกเต๋าออกหน้า 3 สองลูก อีกลูกออกอะไรก็ได้ แบบนี้ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 8
วิธีการจะคล้ายกับแทงเต็งเดี่ยว ต่างกันตรงที่เราจะต้องทายพร้อมกัน 2 หมายเลข เช่น แทง 3 กับ 5 หรือ 1 กับ 4 เป็นต้น หากทายถูกทั้ง 2 แต้ม โดยลูกเต๋า 2 ลูก ออกหน้าที่ทายไว้ จะได้รับผลตอบแทนในอัตราจ่าย 1 : 5 เช่น แทง 100 ได้ 600 (กำไร 500) เป็นต้น
การแทงไฮโลแบบนี้จะเป็นการทายว่าแต้มรวมจะออกมากี่แต้ม โดยแต่ละแต้มจะมีอัตราจ่ายที่แตกต่างกันไปดังนี้
เป็นการแทงไฮโลเพื่อทายว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกจะออกแต้มเดียวกัน ซึ่งจะเป็นแต้มไหนก็ได้ถือว่าชนะเหมือนกัน สำหรับการแทงไฮโลแบบตองจะมีอัตราจ่ายสูงถึง 1 : 24 ไม่รวมทุนกันเลยทีเดียว
เป็นการทายว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกจะออกแต้มเดียวกัน โดยแต้มที่ว่าจะต้องตรงกับที่เราเลือกไว้ เช่น แทงตอง 3 หากออกหน้า 3 ทั้งสามลูกก็ถือว่าชนะ แต่ถ้าออกมาเป็นตอง 5 หรือตองเลขอื่นก็ถือว่าแพ้ ส่วนอัตราจ่ายคือ 1 : 150 เรียกได้ว่ากำไรจุก ๆ กันเลยทีเดียว